ในฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน ทีมชาติญี่ปุ่นเป็นทีมหนึ่งที่เล่นได้อย่างชื่นชม สามารถพลิกฟอร์มเอาชนะเยอรมันและผ่านเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ และในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022 ยังมีนักเตะญี่ปุ่นอีกคนที่โชว์ฟอร์มเด่นมากๆ นั่นก็คือ คาโอรุ มิโตมะ ปีกซ้ายวัย 25 ของทีม ไบรห์ตัน ซึ่งยิงประตูให้ทีมในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 4 ประตู แต่หากให้พูดถึงนักเตะญี่ปุ่นที่เป็นต้นแบบของนักเตะรุ่นหลังคงต้องยกให้กับ ชินจิ คางาวะ ที่เคยโด่งดังเมื่อได้อยู่ในทีมแมนฯยูในยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ความจริงแล้ว คางาวะ เริ่มโด่งดังเมื่อย้ายจากเซเรโซ โอซาก้า มาอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ เมื่อเดือนก.ค.2010 และช่วยให้ “เสือเหลือง” คว้าแชมป์บุนเดสลีกาในฤดูกาล 2010-11 และ 2011-12 และกลางปี 2012 เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นคนเซ็นสัญญาคว้าตัวมิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นมาอยู่ “ผีแดง” ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์
ชินจิคางาวะ เล่นอยู่กับ “ผีแดง” เป็นเวลา 2 ฤดูกาล
กล่าวได้ว่าไม่ได้มีฟอร์มโดดเด่นอย่างที่คาดหมาย หากแต่เขาเป็นขวัญใจแฟนบอลด้วยทักษะการเล่นยอดเยี่ยม การครองบอลเหนียวแน่น และเป็นจอมเทคนิคเหมือนอย่างเอริก คันโตนา และ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ และมีเกมหนึ่งที่เพลย์เมคเกอร์ชาวญี่ปุ่นสามารถสร้างความประทับใจนั่นคือการเล่นเมื่อ 2 มี.ค.2013 ซึ่ง “ผีแดง” เอาชนะ 4-0 ประตู และคางาวะ ทำแฮตทริกได้
คางาวะ ลงเล่นให้แมนฯยูทุกรายการรวม 57 นัด ยิงได้ 6 ประตู 10 แอสซิสต์ ช่วยให้ “ผีแดง” ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2013 “สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดก็คือการได้ร่วมงานกับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นความทรงจำที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”