หลังจากสามารถขจัดปัญหาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปได้แล้ว ฟอร์มการเล่นของ แมนยู ก็ดูเหมือนจะเข้าที่เข้าทางมากยิ่งขึ้น ซึ่งคนที่กลับมาเปล่งประกายอย่างเต็มที่ก็คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด
แรชฟอร์ด ได้กลับมาเล่นในตำแหน่งถนัดคือกองหน้าตัวเป้า และทำประตูให้ทีมได้อย่างต่อเนื่อง การเล่นมีความมั่นใจ มีส่วนร่วมกับทีมมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ฤดูกาลนี้ กองหน้าวัย 25 ปี ลงเล่นไปทั้งหมด 33 นัดยิงประตูไปได้ 20 ประตูกับ 8 แอสซิสต์ และหากนับเฉพาะผลงานในลีกคือลงเล่น 22 นัด ยิงได้ 11 ประตู 3 แอสซิสต์ และในเกมล่าสุดที่ “ผีแดง” เปิด Old Trafford เสมอกับ Leeds United 2-2 ก็ทำได้ 1 ประตู และทำให้ แรชฟอร์ด ยิงประตูในเกมเหย้าได้ถึง 6 นัดติดต่อกัน ซึ่งเป็นนักเตะของแมนฯยู คนแรกที่ทำสถิติเทียบเท่ากับที่ เวย์น รูนีย์ ทำไว้เมื่อปี 2012 ซึ่งครั้งนั้น รูนีย์ ทำประตูให้ทีมเสมอ Everton ไปอย่างสุดมัน 4-4 ประตู
โดยสถิติยิง 6 ประตูใน Old Trafford ของแรชฟอร์ดเริ่มต้นทำได้ในเกมที่เจอกับ West Ham เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว จากนั้นก็ไล่ยิงมาได้ในเกมเล่นกับ Nottingham Forest, Bournemouth, Manchester City และ Crystal Palace และมาถึงเกมเจอกับ Leeds และหากย้อนกลับไปดูจริง ๆ ฟอร์มของดาวยิงวัย 25 กลับมาดีอย่างต่อเนื่องหลังจาก World Cup 2022 เขายิงประตูมาได้ทุกรายการ 12 ประตูเข้าไปแล้ว ถ้าเทียบกับฤดูกาล 2021-22 ก็แทบจะเป็นคนละเรื่องกันเลย เพราะฤดูกาลที่แล้วเขาลงเล่น 25 นัดยิงได้เพียงแค่ 4 ประตูเท่านั้น สิ่งที่แรชฟอร์ดต้องการก็คือการได้รับโอกาส ผู้จัดการทีมให้ความเชื่อมั่น และแฟนบอลให้การหนุนหลังเขาอย่างเต็มที่เท่านั้น
ตอนนี้เขาเล่นเหมือนได้เกิดใหม่ภายใต้การคุมทีมของ Erik ten Hag โดยเฉพาะประตูที่ช่วยให้ “ผีแดง” เอาชนะในเกมดาร์บี้ แมตช์ของเมือง Manchester เป็นอะไรที่น่าประทับใจอย่างมาก
นอกจากนั้นในการลงเล่นในศึก Carabao Cup เขาลงเล่นทั้งหมด 5 นัดยิงได้ 5 ประตู พาแมนฯยู เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศไปเจอกับ Newcastle United และหมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นทีเด็ดช่วยให้ทีมได้แชมป์ไปครอง หากนับเฉพาะผลงานในลีกนับตั้งแต่ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ แรชฟอร์ดลงเล่นไปทั้งหมด 226 นัด ยิงได้ 70 ประตู 42 แอสซิสต์ โดย 70 ประตูที่ทำได้ก็เทียบเท่ากับดาวยิงในตำนานอย่าง เอริก คันโตน่า ทำไว้ได้เสียด้วย ผลงานยิงประตูทุกรายการของเขานั้นเป็นรองเพียง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าของ Manchester City เพียงคนเดียวเท่านั้น
“ตอนนี้ Rashford เหมือนกับจิตวิญญาณที่หลงทางกลับมาฟื้นคืนชีพเป็นปีศาจที่หิวกระหายชัยชนะ แน่นอนล่ะว่าเขาไม่ใช่กองหน้าพรสวรรค์ หรือเป็นจอมเทคนิคอย่าง Cantona แต่ด้วยแท็คติกการเล่นในขณะนี้มันสอดคล้องกับการเล่นของเขาอย่างมาก”
Ian Ladyman แห่ง Daily Mail
ในเกมกับ Leeds มีบางอย่างที่น่าสังเกตเกิดขึ้น ในครึ่งแรกเขายังไม่สามารถเปล่งประสิทธิภาพได้มากนัก การ์น่าโช ยังทำได้ไม่ดีนักยังทำได้ไม่ดีนักในตำแหน่งปีกซ้าย แต่ครึ่งหลัง Rashford ได้กลับไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า และมี เจดอน ซานโช่ มาเล่นในตำแหน่งปีกขวาทุกอย่างจึงลงตัว เป็นอีกเกมที่ยืนยันว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด ควรจะยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า เหมือนในสมัยที่เปิดตัวในปี 2015 ในยุคของ Louis van Gaal
หลังจากนั้นมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้น เขาถูกโยกไปริมเส้น ขาดความมั่นใจในการทำประตู และพอซัดจุดโทษพลาดให้ทีมชาติอังกฤษในศึก Euro 2020 ความมั่นใจยิ่งถดถอยลงไปจากเดิม จนดูเหมือนว่าบางที “ผีแดง” อาจไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อตัว Harry Kane หรือ Victor Osimhen มาเสริมทัพแล้วก็ได้ในฤดูกาลหน้า
ติดตามช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Website : ผีแดง Society
Facebook : ผีแดง Society
Instagram : Reddevilsociety
YouTube : ผีแดง Society
ขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก : ufabet