ดีล 4 วัน Casemiro ทิ้งมงกุฎราชันสู่ “ผีแดง” ในยุคตั้งไข่
ในวันที่ Manchester United อยู่ในยุคตกต่ำ และกำลังอยู่ในช่วงของการตั้งไข่และเริ่มต้นสโมสรใหม่ภายใต้การนำทีมของ เอริก เทน ฮาก แน่นอนว่าเริ่มต้นฤดูกาล 2021-22 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ 2 เกมในลีก ทำให้พวกเขาตกอยู่อันดับที่ 20 ของตาราง ซึ่งแน่นอนว่าด้วยมุมมองหลายอย่างทำให้ Manchester United ในปี 2022 กลายเป็นทีมที่อยู่นอกสายตา ถึงแม้ว่าประวัติศาสตร์ของพวกเขาจะยิ่งใหญ่มากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ในสายตาของนักวิพากษ์วิจารณ์หรือว่ากูรูลูกหนังต่างก็มองว่านี่คือแมนยู ที่ไม่มีใครเกรงกลัวเหมือนพวกเขาในอดีตไม่ว่าจะเป็นสภาพทีม หรือว่านักเตะหน้าใหม่ รวมถึงปัจจัยในหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นบอร์ดบริหารที่ไม่มีวิสัยทัศน์ในการซื้อตัวนักเตะ หรือว่าจ่ายเงินในการซื้อผู้เล่นเข้ามาเพื่อเป็นการตลาดของสโมสร นั่นจึงทำให้ความยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่เคยมีกำลังที่จะถูกลบไปจากประวัติศาสตร์ แต่แน่นอนว่าแฟนบอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พวกเขามองถึงอนาคตที่พร้อมจะอดทนรอ หลังจากที่กุนซือชาวดัตช์เข้ามาเก็บกวาด และรีเซ็ตทุกอย่างภายในสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แห่งนี้
และเราจะมาพูดถึงการดีลซื้อนักเตะในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ใช้เวลา ดีล 4 วัน Casemiro ห้องเครื่องของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เข้ามาเสริมทัพ และดูเหมือนว่าในช่วง 4 วันก่อนที่จะเกิดการเซ็นสัญญาในวันที่ 19 สิงหาคม 2022 ต่างก็มีข่าวและเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับดูประวัติศาสตร์ครั้งนี้ และเราจะมาพูดถึงแต่ละประเด็นเกี่ยวกับการย้ายทีมแบบฉับพลันของห้องเครื่องที่เรียกได้ว่า ยอมทิ้งมงกุฎราชาเพื่อที่จะมาเริ่มต้นกับทีมตั้งไข่ในยุคใหม่ของปีศาจแดง
ด้วยชื่อเสียงและฝีเท้าของ Casemiro ภายใต้เครื่องแบบของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ทำให้แฟนบอลทั่วโลกรู้จักชายคนนี้อยู่แล้ว และแน่นอนว่านับตั้งแต่ปี 2013 ที่ Casemiro ย้ายจากเซาเปาโล เข้าสู่ เรอัล มาดริด จนถึงปี 2022 ห้องเครื่องชาวบราซิลคว้าถ้วยรางวัลและคว้าแชมป์กับ เรอัล มาดริด มาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แชมป์สโมสรโลก 3 สมัย, ลาลีกาลีก 3 สมัย, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 5 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 3 สมัย และในฤดูกาล 2022 ห้องเครื่องคนสำคัญก็พา เรอัล มาดริด คว้าถ้วยใบใหญ่ในยุโรป ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก
และแน่นอนว่าในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะปี 2022 Casemiro ไม่มีข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีม ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่า เรอัล มาดริด จะปล่อย Casemiro ออกจากทีม แต่ทว่าในช่วงของวันที่ 15 สิงหาคม สื่อเมืองผู้ดีก็ได้ออกมาประโคมข่าวว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มีข่าวเชื่อมโยงกับ Casemiro และเหล่าบรรดากูรูลูกหนังก็มองว่าโอกาส 0% กับการย้ายทีมครั้งนี้ เพราะว่า Casemiro ที่อยู่บนบัลลังก์ของราชันชุดขาว ที่คว้าแชมป์และอยู่ในสถานะนักเตะที่มีการสนับสนุนจากเพื่อนรอบข้าง คงไม่ตัดสินใจที่จะย้ายมาร่วมงานกับ แมนยู ที่อยู่ในช่วงของยุคตกต่ำ และกำลังเริ่มใหม่อยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น หลังจากผ่านไปเพียงแค่ 4 วัน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็ออกมาประกาศว่าพวกเขาได้เซ็นสัญญาคว้าตัว Casemiro ในราคาค่าฉีดสัญญา 60 ล้านปอนด์ และค่าเหนื่อยมหาศาล และยังเซ็นสัญญา 4 ปีกับห้องเครื่องชาวบราซิลในวัย 30 ปี นั่นจึงทำให้กระแสข่าวด้านลบมีออกมาอย่างต่อเนื่องนั่นคือสิ่งที่เหล่าบรรดากูรูลูกหนังต่างก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าจะเป็น การใช้งบประมาณที่ฟุ่มเฟือยของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ซื้อนักเตะเข้ามาแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ หรือบางคำวิจารย์ก็บอกว่าแทบจะไม่มีความคุ้มค่ากับการจ่ายค่าฉีกสัญญา 60 ล้านปอนด์เพราะ Casemiro อยู่ในช่วงอายุ 30 หรือแม้กระทั่งกูรูลูกหนังชื่อดังต่างก็บอกว่า Casemiro ไม่ได้มีความเก่งกาจแต่อย่างใด เพราะเจ้าตัวประสบความสำเร็จได้นั่นก็คืออยู่ในเครื่องแบบของ เรอัล มาดริด ที่มีผู้เล่นสนับสนุนอยู่รอบด้าน แต่ท้ายที่สุดท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็ได้คว้าตัวห้องเครื่องชาวบราซิลจาก เรอัล มาดริด และเซ็นสัญญา 4 ปี ในวันที่ 19 สิงหาคม 2022
ซึ่งถ้าหากจะเปรียบเทียบสถานการณ์ในตอนนั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กำลังใช้งาน สก๊อต แม็กโทมิเนย์ ยืนควบคุมแดนกลางและในช่วงนั้น แม็กโทมิเนย์ ก็อยู่ในร่างทองคำ นั่นจึงเป็นการตอกย้ำอีกว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ Casemiro เข้ามาร่วมทีม และ เทน ฮาก ก็ปล่อยให้ Casemiro นั่งอยู่ข้างสนามเป็นตัวสำรองกับนักเตะค่าตัว 60 ล้านปอนด์
จนกระทั่ง Casemiro ได้รับโอกาสลงสนามและนี่คือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่พวกเขามองถึงผู้เล่นในตำแหน่งห้องเครื่องตัวรับที่ดีที่สุด ซึ่งหากจะย้อนกลับไปในอดีตแฟนบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้เปรียบเทียบว่านี่คือ รอย คีน อดีตกัปตันทีมขาโหดที่ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง เพราะรูปแบบสไตล์การเล่นที่ดุดัน อ่านทาง จับจังหวะ หรือแม้กระทั่งเก็บกวาดหน้าบ้าน Casemiro ทำได้อย่างหมดจด อีกทั้งแฟนบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยังได้เห็นคลาสบอล และรูปแบบของนักเตะบราซิลที่จ่ายบอลได้อย่างเหนือชั้น ผ่านบอลได้ถึงเท้ากองหน้าอย่างแม่นยำ ซึ่งทุกอย่างรวมไว้ที่ Casemiro ยิ่งเป็นการสนับสนุนจากเพื่อนรอบข้างอย่าง บรูโน แฟร์นานเดส หรือว่าผู้เล่นรายอื่น ๆ ที่เมื่อมี Casemiro อยู่ในสนาม พวกเขาจะมีความมั่นใจ และต้องยอมรับเลยว่า ทุกครั้งที่ Casemiro ลงสนามนับตั้งแต่เกมแรกจนถึงปัจจุบันนี้ passion การเรียกกำลังใจและสร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีม และแฟนบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทำให้ความเชื่อถือและความหวังของแฟนบอลปีศาจแดง กลับมามีอีกครั้ง
และแน่นอนว่าในฤดูกาลแรกสิ่งที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ที่ Casemiro เข้ามาสวมเครื่องแบบให้กับ แมนยู พวกเขาจบอันดับ 3 ในตารางพรีเมียร์ลีก และได้ไปเล่นถ้วยใหญ่ในยุโรป ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และยังมีการมองถึงสถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตลอดฤดูกาล 2022 ที่ผ่านมาว่า ในช่วงของเกมที่ไม่มี Casemiro ไม่ว่าจะได้รับการบาดเจ็บ หรือว่าติดโทษแบน สถานการณ์ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พวกเขาแทบจะไม่มีเกมรุก หรือว่าไม่มีตัวเชื่อมเกมระหว่างกองหลังกับกองหน้าเหมือนกับมี Casemiro ยืนอยู่ในแดนกลาง
และนั่นก็พิสูจน์แล้วว่า นี่คือความคุ้มค่าของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่พวกเขาได้ Casemiro เข้ามาร่วมทัพ เพราะจุดเปลี่ยนถ้าหากจะมองภาพรวมนับตั้งแต่ที่มี Casemiro เข้ามาสวมเครื่องแบบ เกมในแดนกลางยกระดับขึ้นมามาก ทำให้เกมรุกของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กลับมาน่ากลัวและดุดันเหมือนเดิม
ติดตามช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Website : ผีแดง Society
Facebook : ผีแดง Society
Instagram : Reddevilsociety
YouTube : ผีแดง Society
ขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก : ufabet