ดิเอโก้ ฟอร์ลัน Diego Forlan ดาวยิงที่ล้มไม่เป็นท่ากับผีแดง สู่จุดสูงสุดดาวซัลโวลีกสเปน
ขึ้นชื่อว่าเป็นกองหน้าแน่นอนว่าโฟกัสก็คงอยู่ที่ชั้นถล่มประตู โดยเฉพาะกองหน้ากองทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่พวกเขาซื้อตัวนักเตะเข้ามาแต่ละราย เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงกับทีมเก่าและเป็นดาวยิงประจำทีม และคงไม่พ้นสายตาของทีมแมวมองที่จะดึงตัวเข้ามาเซ็นสัญญาภายในสโมสร และในปี 2001-02 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็คว้าตัว ดิเอโก้ ฟอร์ลัน Diego Forlan ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยมาจากสโมสร อินเดเปนดิเอนเต ทีมดังจากลีกอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของนักเตะอาชีพและเจ้าตัวก็สถาปนาฝีเท้าของตัวเอง จากผลงานสนามไปทั้งหมด 80 นัด และยิงประตูทั้งหมด 37 ลูก
และในช่วงนั้นนี่คือนักเตะที่อยู่ในช่วงของขาขึ้นก็คงไม่พลาดที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็ให้ความสนใจและต้องการดึงตัวเข้ามาร่วมทีม และรู้หรือไม่ว่าในช่วงที่ Diego Forlan ย้ายออกจาก อินเดเปนดิเอนเต เจ้าตัวเกือบที่จะเซ็นสัญญากับสโมสร มิดเดิลสโบรห์ ทีมดังในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่ทว่าด้วยความต้องการของ เซอร์ อาเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ทำให้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอตัดหน้าพร้อมกับเซ็นสัญญา มิดเดิลสโบรห์ ในราคา 6.9 ล้านปอนด์ ในวัย 23 ปีเข้าสู่ทัพผีแดง
และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ เชื่อได้เลยว่าคงจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นกับกองหน้าที่อยู่ในคลาสบอลสูงในช่วงขาขึ้นแน่นอน ซึ่งหลังจากที่ Diego Forlan ย้ายเข้ามาสวมเครื่องแบบให้กับ Manchester united ฤดูกาลแรกเจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนาม 18 เกม แต่ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดแม้แต่ลูกเดียว นั่นหมายความว่าในฤดูกาลแรกกับการปรับตัวในลีกอังกฤษ กองหน้าผมทองไม่สามารถที่จะถล่มประตูคู่แข่งตามที่แฟนบอลคาดหวังได้แม้แต่ลูกเดียว
ซึ่งแน่นอนว่าคงเป็นการทำความเข้าใจง่าย ๆ ว่า การย้ายเข้าสู่ผีดีในฤดูกาลแรกที่มีรูปแบบการเล่นที่ถูกพูดถึงอยู่แล้วว่า ไม่ว่ากองหน้ารายไหนที่เข้าสู่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พวกเขาจะต้องใช้เวลาปรับตัว แต่สิ่งที่แฟนบอลรับไม่ได้ก็คือ Diego Forlan ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว เพราะตัวเขาเองถูกคาดหวังจากแฟนบอลว่าจะเป็นกองหน้าที่เข้ามาถล่มประตูช่วย รุด ฟาน นิสเตลรอยและถึงแม้ว่าในตอนแรก รุด ฟาน นิสเตลรอย จะได้รับโอกาสลงสนามเป็นผู้เล่นตัวหลัก แต่สำหรับ ป๋าเฟอร์กี้ ก็ให้โอกาส Diego Forlan ลงสนาม
จนกระทั่งก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ของฤดูกาล Diego Forlan ในสีเสื้อของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2022-23 หลังจากเขาได้เรียนรู้รูปแบบการเล่นบอลสไตล์อังกฤษ พร้อมกับปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีม แน่นอนว่าในฤดูกาลนี้ Diego Forlan ซัดไปถึง 9 ประตู กับโอกาสลงสนามทั้งตัวจริงและตัวสำรอง และนี่คงเป็นฤดูกาลที่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มองว่านี่คือการจ่ายค่าตัวซื้อตัวกองหน้าที่เกิดความคุ้มค่าที่สุด
เพราะถึงแม้ว่าจำนวนประตูของ Diego Forlan จะเป็นจำนวนประตูที่น้อย แต่ทว่าในแต่ละรูปแต่ละประตู และแต่ละจังหวะที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นประตูสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นประตูที่ เขาซัดเต็มข้อยิงประตูตีเสมอในเกมที่พบกับ Aston Villa หรือว่าจะเป็นประตูชัยที่ส่งบอลเข้าไปตรงตาข่าย Southampton ซึ่งในเกมนั้นแฟนบอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คงจดจำได้ดี หลังจากที่ Diego Forlan ยิงประตูได้ เจ้าตัวถอดเสื้อและวิ่งดีใจก่อนที่นักเตะ Southampton จะนำลูกบอลมาวางที่กลางสนามและเริ่มเล่นซึ่งเจ้าตัวยังไม่ได้สวมเสื้อด้วยซ้ำก็วิ่งไล่บอล จนทำให้เป็นข่าวโด่งดังทั่วโลก
และที่แฟนบอลผีแดงมองว่านี่ก็เพียงพอสำหรับค่าตัว 6.9 ล้านปอนด์ ของนักเตะผมทองที่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซื้อมานั่นก็คือการเหมา 2 ประตูใน “เกมแดงเดือด” ที่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ซึ่งในเกมนั้นความผิดพลาดของผู้รักษาประตูลิเวอร์พูล ทำให้บอลหลุดลอดหว่างขาก่อนที่ Diego Forlan จะยิงเข้าไปอย่างง่ายดายและประตูชัยลูกที่ 2 นี่คือความคุ้มค่าที่เจ้าตัวสวมเครื่องแบบให้กับ Manchester United หลังจากที่ซัดเต็มข้อ บอลเข้าไปตุงตาข่าย ซึ่งสำหรับในเกมนี้ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะแน่นอนว่าความคุ้มค่าและกำเนิดซุปเปอร์ฮีโร่ แฟนบอลต่างก็จดจำได้แน่นอน และชื่อที่อยู่บนสกอร์บอร์ด 2 ลูกก็เป็นของ Diego Forlan
และเมื่อก้าวเข้าสู่ฤดูกาลที่ 3 ในปี 2003-04 ผลงานของ Diego Forlan ก็ไม่กระเตื้องขึ้นทำให้เจ้าตัวตัดสินใจย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2004 ไปร่วมงานกับ บียาร์เรอัล และแน่นอนว่าหลังจากที่เจ้าตัวสวมเสื้อสีเหลือง ฟอร์มกลับพริกตาลปัตรกลายเป็นจอมถล่มประตูแห่งลีกสเปน เพราะ Diego Forlan ลงสนามในฤดูกาลแรกให้ บียาร์เรอัล เจ้าตัวยิงไปถึง 25 ประตูจาก 38 นัด คว้าดาวซัลโวลีก และยังได้รับรองเท้าทองคำในยุโรปร่วมกับ อองรี กองหน้าของ อาร์เซนอล ในปีเดียวกัน
ก่อนที่ในปี 2007 Diego Forlan จะย้ายไปสวมเครื่องแบบให้กับ แอตเลติโก้ มาดริด และสร้างตำนานให้กับทีม “ตราหมี” เพราะยิงไปในลีก 32 ประตู และยังได้รับรางวัลดาวซัลโวสูงสุด พ่วงด้วยรองเท้าทองคำยุโรป ซึ่งรับเป็นครั้งที่ 2 ในการเล่นในลีกสเปน ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายไปเล่นในลีกอิตาลี ภายใต้เครื่องแบบของ อินเตอร์ มิลาน ในปี 2011 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะย้ายไปเล่นในลีกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นาซิโอนัล (2012– 2014), เซเรโซ โอซากะ (2014– 2015), เปญญาโรล (2015–2016), มุมไบซิตี้ (2016) , คิตฉี (2018) ก่อนที่จะประกาศแขวนสตั๊ดตอนอายุ 39 ปี ในปี 2018
ติดตามช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Website : ผีแดง Society
Facebook : ผีแดง Society
Instagram : Reddevilsociety
YouTube : ผีแดง Society
ขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก : ufabet
