ลูกากู (Romelu Lukaku) จากดาวยิง สู่ตัวตลกที่หน้ากรอบประตู

ลูกากู (Romelu Lukaku)

ลูกากู (Romelu Lukaku) จากดาวยิงผู้เป็นความหวัง แมนยู กลายมาเป็นตู้เย็นตัวตลกที่หน้ากรอบประตู

หากเราพูดถึงชื่อของ Romelu Lukaku แน่นอนว่าหลายท่านจะต้องนึกถึงกองหน้าร่างใหญ่ชาวเบลเยียม ที่มีจุดเด่นในการเก็บบอลไว้กับตัว มีความแข็งแกร่งสูง และมีความสามารถในการยิงประตูด้วยเท้าซ้าย

แต่ในตอนนี้หากพูดถึงชื่อของชายคนนี้ เขากลับกลายเป็นนักเตะตัวตลกในกรอบเขตโทษ จากนักเตะที่เคยเป็นความหวังให้กับทีมดังมามากมาย รวมไปถึงทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยเช่นเดียวกัน

กลายเป็นว่าเขาต้องผ่านกระแสดราม่าในโลกฟุตบอลในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา เหตุผลใดที่ทำให้เขากลายเป็นตัวตลกของหลายทีมที่ได้ลงเล่น แตกต่างจากวัยเด็กที่เคยถูกยกให้เป็นเด็กปีศาจฝีเท้าเยี่ยม วันนี้เราพร้อมจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับเส้นทางชีวิตของ ลูกากู ไปพร้อม ๆ กัน 

ประวัติ Romelu Lukaku

ลูกากู เด็กหนุ่มจากเมือง Rupel Boom ประเทศเบลเยียม ในวัยเด็กครอบครัวต้องเกิดปัญหาในการใช้ชีวิตอยู่บ่อยครั้ง จนเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่มีเงินแม้แต่จะกินข้าวกลางวันด้วยซ้ำ และไม่ได้มีความฝันว่าจะเป็นกีฬามาตั้งแต่ต้น

แต่ด้วยความที่คุณพ่อของเขาเป็นอดีตนักฟุตบอลในลีกล่างของเบลเยียม และมีสายสัมพันธ์อันดีระหว่างคุณพ่อกับสโมสรเก่า คุณพ่อจึงได้งานเล็ก ๆ เป็นเทรนเนอร์ให้กับทีมฟุตบอลชุดเล็ก จุดนี้เองทำให้ครอบครัวของเขาเริ่มตั้งตัวได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นผลดีให้กับเขาเช่นเดียวกัน ที่ได้มีโอกาสฝึกซ้อมฟุตบอลไปพร้อม ๆ กัน

ลูกากู (Romelu Lukaku)

Lukaku ฉายแววสุดยอดตั้งแต่อายุเพียงแค่ 9 ขวบเท่านั้น ได้ฝึกซ้อมในชุดทีมเยาวชนของสโมสร รูเปลบูม เคเอฟซี วินธัม และเค ลีร์เซ่ ทีมนี้เองได้นำตัวไปฝึกซ้อมอย่างหนัก ทำให้ความสามารถของ Lukaku เผยให้เห็นขึ้นมาอย่างชัดเจน จนสามารถทำประตูไปได้ถึง 121 ประตู จากการลงเล่น 68 นัด ตั้งแต่ในช่วงปี 2004 จนถึง 2006 ทำให้เขาเป็นที่น่ากลัวของเด็กในวัยเดียวกัน ด้วยฝีเท้าอันสุดยอดทำให้ทีมอันเดอร์เลชท์ไม่รอช้า จับมาปั้นฝีเท้าต่อและให้เซ็นสัญญาขึ้นทีมชุดใหญ่ในปี 2009

ความเทพของ Lukaku ก็ได้เผยให้เห็นตั้งแต่ฤดูกาลแรก ด้วยการขึ้นเป็นดาวซัลโว แถมยังช่วยสโมสร อันเดอร์เลชท์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้อีกด้วย แม้ว่าเขาจะอายุเพียงแค่ 18 ปี แต่สามารถยิงประตูได้ถึง 20 ประตู จนทำให้ถูกตั้งฉายาว่าเป็น “เด็กปีศาจ”

ต่อมาฤดูกาล 2011/12 สโมสรยักษ์ใหญ่ในตอนนั้นอย่าง เชลซี ไม่รอช้าที่จะดึงตัวเด็กหนุ่มอย่าวเขามาร่วมทีม ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ และให้สัญญานานถึง 5 ปี เพราะด้วยรูปร่างอันสูงใหญ่ มีความแข็งแกร่ง และมีความสามารถในการยิงประตู

ทำให้เขาเหมาะที่จะมาเป็นตัวแทนของ ดรอกบา อย่างมาก ซึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเป็นแฟนเชลซี แต่เด็กอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่เลือกย้ายมา แต่กลายเป็นว่าเด็กหนุ่มคนนี้ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับความเร็วของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ แม้ว่าเขาจะมีร่างกายที่ใหญ่โตแต่ก็ยังไม่สามารถเบียดสู้กองหลังที่แข็งแกร่งของหลาย ๆ ทีม

ลูกากู (Romelu Lukaku)

รวมกับตอนนั้นในทีมก็ยังมีสตาร์ดังมากมาย ทำให้ ลูกากู ตัดสินใจขอไปหาประสบการณ์เพิ่ม ด้วยการยืมตัวไปเล่นที่ เวสต์ บรอมวิช ในฤดูกาล 2012/13 กลายเป็นว่าเขาเล่นดีอย่างมาก ลงเป็นตัวจริง 35 นัด แล้วยิงไปถึง 17 ประตู ช่วยทีมจบในอันดับที่ 8 เลยทีเดียว จากนั้นก็ได้ถูกยืมตัวไปเล่นที่ เอฟเวอร์ตัน  ตอนนี้เองร่างทองของ Lukaku ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น สามารถปลุกปีศาจหนุ่มคนนี้ให้ตื่นมาอีกครั้ง

ด้วยสไตล์การเล่นบอลโยนเข้ากลาง ให้เขาเป็นตัวเก็บบอลหรือจะเลือกทำประตูในกลางอากาศก็ทำได้ดี เอฟเวอร์ตัน ได้ตัดสินใจทุ่มเงิน 25 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อขาดมาร่วมทีมต่อ ซึ่งเขาก็สามารถยิงไปได้ถึง 87 ประตู จากการลงเล่นไป 152 นัด ทำให้ Lukaku เป็นที่รักของแฟน เอฟเวอร์ตัน ตลอด 3 ปี และก็ได้กลับขึ้นมาเป็นสุดยอดกองหน้าที่หลายทีมต้องการ  

ไม่นานก็กลายเป็น สโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือกที่จะทุ่มเงิน 75 ล้านปอนด์ ซื้อตัว Lukaku มาร่วมทีมในปี 2017 เขาได้ไปร่วมงานกับ โชเซ่ มูรินโญ่ และมีความหวังว่าจะสามารถทำผลงานได้ดี ซึ่งก็ทำได้จริงเพราะสามารถขึ้นมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของแมนยู ตั้งแต่ฤดูกาล 2017/18 ด้วยจำนวน 27 ประตู  แม้ว่าผลงานโดยรวมจะดีมากในฐานะผู้เล่น แต่เมื่อถึงเวลาต้องแข่งกับทีมใหญ่กลายเป็นว่าเขาไม่สามารถทำประตูได้ ทั้งที่เขาสามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกับทีมชาติเบลเยียม ก็ตาม

แต่เมื่อเขาลงเล่นในสีเสื้อของ แมนยู” เท่าไหร่ ก็เหมือนความมั่นใจของเขาจะลดน้อยลง Lukaku ไม่สามารถจับบอลให้อยู่ติดเท้า ใช้เวลาอยู่กับบอลนานจนทำให้ถูกแย่ง ยืนผิดตำแหน่ง ไม่สามารถหาช่องในการทำประตูได้ มักจะลงมาเล่นเกมรับมากกว่าเกมรุก ไม่มีความเร็วหลงเหลืออยู่ ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น และยังไม่สามารถยิงประตูได้แม่นยำเช่นเดิม

รวมเข้ากับอาการบาดเจ็บที่บริเวณ hamstring ยิ่งทำให้เขามีผลงานที่ย่ำแย่ยิ่งขึ้น ช่วงเวลานี้เองที่ ลูกากู กลายเป็นตัวตลกถูกล้อเลียนเป็น Meme ไปทั่วโลก แฟนบอลหลายคนถึงกลับบอกว่า มีตู้เย็นอยู่ในสนามยังมีประโยชน์มากกว่ามีเขาอยู่ในทีม แฟนบอลต่างสาปส่ง ไม่ต้องการให้เขากลายมาเป็นกองหน้าตัวหลัก

ลูกากู ต้องหาทีมใหม่ เพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมจะปล่อยตัวเขาออกไป ซึ่งเป็น อินเตอร์มิลาน ที่ได้ยื่นมือมาคว้าเขามาร่วมทีม ด้วยค่าตัว 80 ล้านยูโร ในฤดูกาล 2019 กลายเป็นว่าเขาสามารถจุติร่างเทพกลับมาได้อีกครั้ง สามารถพาทีมอินเตอร์คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรียอา ได้ในฤดูกาล 2020/21 ในรอบ 11 ปี ซึ่งเขายิงไปได้ถึง 30 ประตู รวมทุกรายการ ด้วยผลงานที่ดีใน อินเตอร์ จนทำให้มีโอกาสที่ Romelu Lukaku จะกลับมาแก้ตัวใน พรีเมียร์ลีก เกิดขึ้นอีกครั้ง กลายเป็น เชลซี ที่ดึงเขากลับมาในปี 2021 ด้วยค่าตัวสูงถึง 97.5 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญายาวถึง 5 ปี ในช่วงแรก ๆ เขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างดีช่วยทีมให้ชนะหลายแมตช์

หลังจากนั้นไม่นาน กลายเป็นว่าฟอร์มเขาก็ตกลงอีกครั้ง จนไม่สามารถทำประตูได้อีก นอกจากนั้นเขาก็ได้สร้างเรื่องอีกครั้งด้วยการให้สัมภาษณ์ ว่าไม่มีความสุขเลยเมื่อกลับมาเล่นที่ เชลซี  ต้องการจะกลับมาเล่นที่ อินเตอร์มิลาน มากกว่า จุดนี้ยังทำให้แฟน ๆ เชลซี โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ สโมสรจึงต้องส่งเขายืมตัวกลับไปที่ทีม อินเตอร์มิลาน อีกครั้ง ซึ่งในตอนนี้ Romelu Lukaku ก็ยังไม่รู้ว่าตนเองจะต้องไปอยู่ในทีมไหน จึงจะสามารถดึงเอาฟอร์มของเด็กปีศาจที่เคยเป็นที่ต้องการทั่วโลก กลับมาได้อีกครั้ง


ติดตามช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Website : ผีแดง Society
Facebook : ผีแดง Society
Instagram : Reddevilsociety
YouTube : ผีแดง Society

Scroll to Top